จากป๊อบสตาร์สู่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน !!

ปัจจุบันนี้

มีนักแสดงชื่อดังที่เป็นซุปเปอร์สตาร์มากมายจาก Hollywood หรือ นักร้องนักดนตรีที่มีคนรู้จักเป็นอย่างดี ได้ตัดสินใจก้าวเข้าสู่อาชีพใหม่ที่แตกต่างจากสิ่งที่ทำโดยสิ้นเชิง เพราะถึงแม้เมื่อพูดถึงอาชีพการแสดงหรือนักดนตรีจะมีเสน่ห์ แต่ในอีกมุมนึงก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าอาชีพเหล่านี้ยังถือว่ามีความไม่แน่นอนอยู่พอสมควร อีกทั้งไม่มีเวลาส่วนตัวให้กับตัวเองอีกด้วย และถ้ายิ่งถ้าไม่ใช่นักแสดงที่ชื่อกระฉ่อนอย่าง Brad Pitt หรือ Meryl Streep ซึ่งซักวันหนึ่งนักแสดงบางคนอาจจะหายไปจากหน้าจอเลยก็ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงหาทางทำให้ชีวิตมีความมั่นคงเพื่อที่อนาคตจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและใช้เวลากับชีวิตที่ต้องการมากยิ่งขึ้น

โดย

อดีตนักร้อง Pop Star อย่าง Robyn Rihanna Fenty ที่เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้เปิดเส้นทางเดินใหม่ของตนเอง ถึงแม้ถ้าเจ้าตัวจะไม่ก้าวออกมาในเส้นทางเดินใหม่ เธอก็เป็นศิลปินหญิงที่สามารถทำรายได้อันดับต้นๆ ของโลกจากการร้องและแต่งเพลง เธอกลับเลือกออกมาเริ่มต้นธุรกิจเพื่อสร้าง ‘อาณาจักรแห่งแฟชั่นและความงาม’ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่เจ้าตัวนั้นมองเห็นว่าแบรนด์เครื่องสำอางเจ้าใหญ่เริ่มมีความล้าหลัง เครื่องสำอางต่างๆ เช่น ร้องพื้นที่มีเฉดสีที่ไม่เพียงพอกับคนผิวสี เธอจึงเกิดความมุ่งมั่นที่จะทำแบรนด์ของตัวเอง โดยที่จะมีเฉดสีตั้งแต่อ่อนที่สุดจนถึงเข้มที่สุดให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง ซึ่งเธอได้กล่าวว่า เป้าหมายของไลน์สินค้าของบริษัทคือการดึงดูด ‘ผู้หญิงทุกประเภท’ ก่อนจะเปิดตัวรองพื้นที่มีเฉดสีให้เลือกมากกว่า 40 เฉดสี ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในขณะนั้น จนนำมาสู่สิ่งที่เรียกว่า ‘Fenty Effect’ หรือการที่แบรนด์คู่แข่งหันมาเพิ่มจำนวนเฉดสีให้กับโปรดักต์ตัวเองมากขึ้นนั่นเอง

รีฮันนา

เริ่มก่อตั้งบริษัทเครื่องสำอาง Fenty Beauty ตั้งแต่ปี 2017 ภายใต้บริษัทแบรนด์แฟชั่นหรูอย่าง LVMH โดยเธอเป็นเจ้าของ 50% ซึ่งในปีแรกสามารถทำกำไรได้ถึง 550 ล้านเหรียญ และในปัจจุบันบริษัทนี้มีมูลค่าสูงถึง 2,800 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม การร่วมทุนทางธุรกิจของริฮานนาไม่ได้ประสบความสำเร็จไปเสียทุกอย่าง เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ศิลปินวัย 33 ปีรายนี้ได้ตกลงกับ LVMH ในการปิดตัวแบรนด์แฟชั่นอย่าง Savage x Fenty ลง หลังจากเปิดตัวได้ไม่ถึง 2 ปี ซึ่ง LVMH บอกว่าเป็นเพียงการ ‘พักไว้ก่อน’ ระหว่างรอให้เงื่อนไขต่างๆ ดีขึ้น

ซึ่งในปัจจุบัน

เธอได้รับการจัดอันดับให้เป็นศิลปินหญิงที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในโลกคนล่าสุดจากการจัดอันดับของ Forbes โดยรีฮันนามีทรัพย์สินราว 1,700 ล้านเหรียญ ถึงแม้จะมีปัจจัยภายนอกอย่างไวรัส Covid 19 มารบกวนการสร้างยอดขาย แต่กระนั้นมีการประเมินว่าสินทรัพท์ 1,400 ล้านเหรียญนั้นมาจากธุรกิจเครื่องสำอางชื่อ Fenty Beauty ส่วนทรัพย์สินที่เหลือก็มาจากบริษัทผลิตชุดชั้นใน Savage x Fenty ที่มีมูลค่า 270 ล้านเหรียญสหรัฐ บวกกับเงินจากผลงานเพลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะอัลบั้มสุดท้ายของรีฮันนาคือ ‘Anti’ ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2016 และหลังจากนั้นก็ไม่มีผลงานเพลงอีกเลย เพราะเธอมุ่งมั่นและทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาธุรกิจของตนเองจนมาถึงปัจจุบันนี้

ในขณะที่ Fenty

จะมีราคาที่อยู่ในระดับของ Luxury brand แต่ถึงแม้อย่างนั้นราคาก็ยังสามารถจับต้องได้ง่ายมากกว่าแบรนด์เครื่องสำอางขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงกว่าจากจำนวนเฉดสีของรองพื้นใกล้เคียงกับ Fenty ที่มีอยู่ 40 เฉดสี ซึ่งก็คือ Estee Lauder ที่มี 42 เฉดสี ราคาอยู่ประมาณ $42 แต่ราคาของ Fenty จะราคาเพียง $35 เท่านั้น สำหรับแบรนด์ความงาม Fenty Beauty ซึ่งต่อมาได้แตกไลน์ออกมาเป็นแบรนด์สกินแคร์ Fenty Skin เมื่อปีที่แล้ว และกำลังเดินหน้าเตรียมบุกตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ก็สามารถเอาชนะบริษัท The Honest Company ไปได้แบบสวยๆ โดยมีผู้ติดตามผ่านทางโซเชียลมีเดียที่มากกว่า ทำให้แบรนด์ความงามของบริษัท The Honest Company หล่นร่วงลงมาอยู่ที่ อันดับ 2 ส่วนอันดับ 3 คือแบรนด์ Kylie Cosmetics ของ ไคลี เจนเนอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับสาม (144.40 ล้านปอนด์) อันดับ 4 เป็นแบรนด์ Haus Laboratories ของนักร้องสาว เลดี้ กาก้า (101.05 ล้านปอนด์) อันดับ 5 เป็นแบรนด์ของบิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ที่โด่งดังมาจากการเป็นยูทูเบอร์อย่าง Jeffree Star Cosmetics (76.86 ล้านปอนด์) และอันดับ 6 เป็นของแบรนด์ Cindy Crawford’s Meaningful Beauty (72.17 ล้านปอนด์) กับอายุแบรนด์ 17 ปี ซึ่งถือเป็นแบรนด์เก่าแก่ในลิสต์ของการวิจัยการตลาดความงามโดย Cosmetify ส่วนแบรนด์ KKW Beauty ของ คิม คาร์ดาเชียน เวสต์ (72.17 ล้านปอนด์) ครองอันดับที่ 7 ตามมาด้วยอันดับที่ 8 จากผลงานของแบรนด์น้องใหม่ล่าสุด Rare Beauty อายุ 1 ปีของสาวเก่ง เซเลนา โกเมซ (43.30 ล้านปอนด์) ถัดมาอันดับที่ 9 เป็นแบรนด์ความงามสายออร์แกนิก Flower Beauty ของนักแสดงชื่อดัง ดรูว์ แบร์รีมอร์ มีรายได้ 36.09 ล้านปอนด์ ส่งผลให้แบรนด์ Goop ของ กวินเน็ธ พัลโทรว์ อยู่ในอันดับที่ 10 ด้วยเงิน 32.48 ล้านปอนด์

บทสรุป

ถึงแม้คนที่มีรายได้มากอยู่แล้วจากการเป็นศิลปินหรือเซเลบริตี้แต่อดีตนักร้องวัย 33 ก็ยังก้าวที่จะออกมาสู่วงการธุรกิจ เพื่อหารายได้ที่มากขึ้นและสร้างความมั่นคงให้กับตนเอง อีกทั้งตัวเลขของรายได้ก็ได้สะท้อนให้เห็นข้างต้นแล้วว่าการทำธุรกิจสร้างรายได้มากกว่าเดิมให้แก่ Rihanna เพียงใด ซึ่งในปัจจุบันส่งผลให้เธอเป็นศิลปินหญิงที่รวยที่สุดไปแล้ว และนอกจากนั้นยังมีศิลปินนักแสดงรุ่นใหม่ รุ่นเก่ามากมายที่เริ่มจะหันมาเปิดแบรนด์ทำธุรกิจเป็นของตนเองเพื่อเพิ่มรายได้ช่องทางอื่นมากยิ่งขึ้น สรุปแล้วการมีรายรับมากกว่าทางเดียวหรือการหาเส้นทางอาชีพใหม่ให้กับตนเอง อาจจะสร้างรายได้ไปสู่ความมั่นคงมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

Share On :

Scroll to Top