ธนาคารกลางยุโรปเตรียมแตะเบรคหยุดเงินเฟ้อ



คาด
ธนาคารกลางยุโรป
ความแตกต่างระหว่างฝั่ง ECB(ยุโรป) และ FED(สหรัฐ) คือตัวขับเคลื่อนของเงินเฟ้อ
โดยอัตราเงินเฟ้อ
🧐 ในเขตยูโรปได้รับแรงหนุนหลักมาจากค่าพลังงานและค่าอาหารที่สูงขึ้นจากสงครามในยูเครนโดยสิ่งนี้น่าจะหมดไปในระยะกลางในความเห็นของเรา เนื่องจากยุโรปจะพยายามหาแหล่งพลังงาน และแหล่งอาหารใหม่
👉 ส่วนในสหรัฐอเมริกาอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากสินค้าและพลังงานในส่วนที่เกือบเท่ากัน และมีราคาบ้านอีก
เรามองว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯจะยังคงอยู่ต่อไปและคาดว่าจะอยู่ในระดับที่สูงกว่าตอนก่อนเกิด Covid-19 ซึ่งปัจจุบันได้เข้าสู่ยุคที่ข้อจำกัดด้านการผลิตได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเงินเฟ้อ
🤔 ลองนึกถึงปัญหาคอขวดและความยุ่งยากในการผลิต การจัดหา การขนส่ง และการจัดหาพนักงาน ซึ่งธนาคารกลางทั้งสองยังไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเมื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งลดความร้อนแรงได้ในฝั่งของอุปสงค์ในสภาวะปกติเท่านั้น
👨💼 หรือก็คือ เงินเฟ้อที่มาในรอบนี้นั้นไม่ได้มาจากอุปสงค์ที่เยอะเกินไป แต่มาจากปัญหาด้านอุปทานซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะลดอุปสงค์ได้เยอะเพราะอุปทานที่ขาดแคลนเป็นสินค้าจำเป็นซะส่วนใหญ่ เช่น ธัญพืชและพลังงานเป็นต้น หากสงครามยังบานปลายก็จะไม่เป็นผลดีต่อหลายๆประเทศ

บทสรุป
เราเชื่อว่าความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ECB นั้นสูงเกินไปตลาดได้ลดอัตราการปรับตัวลงอย่างช้าๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง แต่จะยังคงอยู่ในระดับสูง โดยในระยะสั้นอาจจะมีการลดสัดส่วนของหุ้นในตลาด DM ของ แต่หากมีสัญญาณชัดเจนว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงตอนนั้นจะกลับเข้าไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นอย่างเต็มที่ ** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง โดยบทความนี้มิใช่สิ่งชี้นำซื้อขายการลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่การให้ความรู้และข้อมูลที่ช่วยให้เพิ่มมุมมองในการลงทุนเท่านั้น **
You must be logged in to post a comment.