MID YEAR OUTLOOK
Lief capital Asset Management

สรุป Mid-Year Outlook จาก Schroder
Global growth forecasts : up for 2023 and down for 2024
Schroder มองว่า
ฝั่ง Developed Market สหรัฐฯ จากการที่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งในต้นปี 2023 จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ดีอยู่ และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะโตได้ถึง 1.5% แต่เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงถึง 5.25% จะเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยมองว่าผลพวงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะออกผลในช่วงปลายปี 2023 เป็น Mild Recession FED จะเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่ปลายปี 2023 เลย ซึ่งจะทำให้ปี 2024 อาจจะเป็นปีที่เติบโตน้อยกว่าปี 2023 ด้วย
Europe – ถึงแม้ว่าราคาพลังงานจะลดลงไปแล้ว แต่เงินเฟ้อฝั่งยุโรปยังคงสูงอยู่จากราคาอาหารและการจ้างงานภาค Service Schroder คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อปี 2023 จะอยู่ที่ระดับ 5.60% และเริ่มลดลงในปี 2024 ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นจะอยู่ที่ระดับ 4.25% ในปี 2023 และเริ่มลดระดับไปสู่ 2.50% ในปี 2024 ส่วนการเติบโต จะเติบโตเพียงแค่ 0.60% และ 0.90% ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับเท่านั้น
UK – Schroder เชื่อว่า UK จะไม่เข้าสู่ Technical Recession แต่อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ระดับเงินเฟ้อในปี 2023 จะอยู่ที่ 7.60% จากราคาอาหารที่ไม่ลด แล้วจะค่อยๆลดลงในปี 2024 สู่ระดับ 3.60% ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับ 5.00% และจะปรับลงในปี 2024 สู่ระดับ 3.25% ในปี 2024 ต่อไป
ส่วนฝั่ง Emerging Market ถึงแม้จะโตได้ดีจากจีนเปิดประเทศ แต่ยังมีสัญญาณการชะลอตัวอยู่ โดยปี 2023 มองว่าโตได้ 4.40% และปี 2024 โตได้แค่ 3.90% แต่เงินเฟ้อฝั่ง EM ที่ลดลงเร็วกว่าฝั่ง DM เชื่อว่าครึ่งปีหลัง ธนาคารกลางของกลุ่ม EM น่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่า และมีโอกาสโตได้ดีกว่าฝั่ง EM
โอกาสในการลงทุน เป็นกลุ่ม EM โดยเฉพาะจีน ถึงแม้ทั้งโลกจะชะลอแต่เชื่อว่ากลุ่ม EM จะชะลอน้อยกว่า
กลุ่มที่ให้ระมัดระวัง คือ กลุ่ม DM จากความเสี่ยง Recession ที่กำลังใกล้เข้ามา
โดยสรุป :
Schroder มองว่าฝั่ง Develop Market นั้นจะเติบโตได้น้อยลงในปี 2023 นี้จากดอกเบี้ยที่สูงจะค่อยๆ ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจเป็น Mild Recession ในช่วงปลายปี 2023 และ FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปลายปี 2023 ส่วนฝั่ง Europe นั้นด้วยเงินเฟ้อที่เหนียวแน่นนั้น มีโอกาสสูงมากที่ ECB จะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องและจะฉุดให้ Europe เติบโตได้น้อยลงโดยโตเพียงแค่ 0.60% เท่านั้น ส่วนฝั่ง EM มองว่าแม้ทั้งโลกจะชะลอแต่กลุ่ม EM ก็จะยังเติบโตได้จากการที่เงินเฟ้อฝั่ง EM ไม่ได้รุนแรงมากนัก แนะนำลงทุนในกลุ่ม EM ส่วนตลาด DM อาจจะเลี่ยงไปก่อน
You must be logged in to post a comment.