MID YEAR OUTLOOK

Lief capital Asset Management

สรุป Mid-Year Outlook จาก KKR

Still Keeping It Simple: Mid-Year Update 2023

KKR มองว่า

  • KKR มองว่าผลพวงของการดำเนินนโยบายแบบตึงตัวจะค่อยๆ ส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างช้าๆ เชื่อว่าการเติบโตของสหรัฐฯ ในปี2023 จะชะลอลงแบบเบาๆ (Mild Recession) โดย GDP ของสหรัฐฯ จะโตได้ถึง 1.8% สูงกว่าที่คาดจากความแข็งแกร่งของภาค Service  แต่ปี 2024 จะเติบโตได้น้อยลงกว่าปี 2023 

  • เชื่อว่าปีนี้เงินเฟ้อสหรัฐจะไปจบที่ 4.00% และ ยุโรป อยู่ที่ 5.30 %  เงินเฟ้อยังมีความเหนียวแน่นจากอัตราค่าแรงภาค Service ที่ยังแข็งแกร่ง ปัญหา การเมืองระหว่างประเทศกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งด้วยและจะสูงกว่า 2 % ที่เป็นเป้าหมายของธนาคารกลาง 

  • ส่วน EPS เชื่อว่าปี 2023 จะปรับตัวลง 5% ส่วนปี 2024 จะโตเพียงแค่ 8% เท่านั้น  

  • ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้น ด้วยความตึงเครียดของภาคธนาคารนั้นมองว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมแล้วในปี 2023 และจะเริ่มมีการปรับลดในช่วง Q1 ปี 2024 

  • ส่วนฝั่งยุโรปมองว่าการเติบโตก็มีการชะลอตัวบ้างจากการที่เยอรมันเข้าสู่ Technical Recession แต่ก็ไม่ได้ชะลอตัวมากขนาดนั้นจากความแข็งแกร่งตลาดแรงงานในยุโรป  

  • ฝั่งเศรษฐกิจจีน มองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีจริงๆ อาจจะต้องรอถึงปี 2024 เนื่องจากปีนี้ตลาดอสังหาฯ ในจีนเป็นตัวที่ฉุดเศรษฐกิจไว้ ไม่ให้เติบโตไปตามที่คาด ถึงแม้การบริโภคจะกลับมาได้อย่างแข็งแกร่งก็ตาม เชื่อว่าหลังจากนี้จีนจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพยุงตลาดบ้าน ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาเพื่อรอให้ผลของนโยบายกระทบกับเศรษฐกิจ

โอกาสในการลงทุน

  • หุ้นญี่ปุ่น จากพื้นฐานที่ดี Valuationที่ถูก มีการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินให้โปร่งใสมากขึ้น

  • ตราสารหนี้กลุ่ม Investment Grade จากระดับ Yield ที่น่าสนใจ และลดความเสี่ยงการ Default ในช่วง Recession อีกด้วย

กลุ่มที่ให้ระมัดระวัง คือ

  • Regional Bank กลุ่มธนาคารจะมีความเสี่ยงการ Default จาก Commercial Real Estate โดยเฉพาะ Office และเชื่อว่าช่วงนี้ยังมีความเปราะบางสูง ให้หลีกเลี่ยง

  • EU กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ถึงแม้ว่าจะชอบในระยะยาว แต่ด้วย Valuation ในปัจจุบันที่แพงกว่าพื้นฐานค่อนข้างมาก แนะนำให้เลี่ยงก่อนในปี 2023นี้

  • REITs จะได้รับผลกระทบจากการที่อัตราดอกเบี้ยที่สูง กลุ่มREITs มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ค่อนข้างมาก

 

โดยสรุป :

KKR มองว่าเศรษฐกิจ USและยุโรป มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวเป็นผลพวงจากการดำเนินนโยบายแบบตึงตัวเงินเฟ้อมองว่าจะเหนียวแน่น ส่วนฝั่งยุโรปนั้นก็จะได้รับผลจากการดำเนินนโยบายแบบตึงตัวก็จะชะลอตัวเช่นกันส่วนดอกเบี้ยจะเริ่มปรับลดในช่วงต้นปี 2024 ส่วนจีนนั้นถึงแม้ว่าการบริโภคจะเริ่มกลับมาแล้ว แต่ตลาดอสังหาฯ ก็ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนไม่โตมากนักในปีนี้ หากจีนมีนโยบายออกมาพยุงตลาดอสังหาฯ ก็ยังต้องใช้เวลาสักพักผลของนโยบายจึงจะเริ่มออกให้เห็น

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.kkr.com/global-perspectives/publications/mid-year-update-2023

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

Scroll to Top