U.S. หนี้พุ่ง เปิดเหตุผลที่ไม่ต้องกังวล I The Shortlist Poll

INSIGHT

Lief capital Asset Management

U.S. หนี้พุ่ง เปิดเหตุผลที่ไม่ต้องกังวล

Debt Ceiling Debate: Examining Risks Around the X Date

สรุปประเด็นสำคัญ

ในช่วงปี 2023 นี้ ประเด็นหนี้ทั้งครัวเรือนและเอกชนในสหรัฐฯ เริ่มเป็นประเด็นมากขึ้น จากหนี้บัตรเครดิตที่สูงขึ้นจนแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว รวมถึงภาคเอกชนมีการยื่นล้มละลายถึง 402 บริษัท จัดได้ว่ามากที่สุดในรอบ 13 ปี แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าตลาดโดยเฉพาะตราสารหนี้ที่การ Default จะมีผลกับตลาดมากนั้น ดูไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้มากนัก จาก High Yield Credit Spread นั้นยังอยู่ในระดับที่ 3.80% ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 5.40% และช่วงปี 2008 อีกด้วย

โดยหากไปดูฝั่งที่ปล่อยสินเชื่ออย่างธนาคารนั้น พบว่าอัตราค้างชำระหนี้ของธุรกิจของ Q1/2023 อยู่ในระดับ 0.97% เท่านั้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยคือ 2.70% หรือช่วงก่อนโควิด 1.10% อัตราหนี้สูญก็ยังคงต่ำอยู่ที่ระดับ 0.28% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่อยู่ในระดับ 0.72% สะท้อนให้เห็นถึงอัตราหนี้ที่ไม่ได้สูงอย่างมีนัยสำคัญมากนักและยังคงห่างจากค่าเฉลี่ยอยู่มาก

ฝั่งของผู้ประกอบการนั้นยังคงมีธุรกิจใหม่ เข้ามามากขึ้นโดยวัดจากบริษัทที่ใช้งานระบบ Payroll สูงขึ้นในปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่ามีธุรกิจเกิดใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น โดยจำนวนผู้ใช้งานในครึ่งปีแรก 2023 นั้นสูงกว่าครึ่งปีแรก 2022 ถึง 2.00% และสูงกว่าปี 2019 ถึง 21.00% สะท้อนให้เห็นว่าหลังช่วง Covid-19 นั้นผู้คนมีความมั่งคั่งมากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยต่างๆ จึงมากขึ้น ทำให้ Carson เชื่อว่าการเติบโตของภาคธุรกิจยังคงเติบโตไปได้สวนทางกับการยื่นล้มละลายในปี 2023 นี้


โดยสรุป : จากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยังคงเติบโตได้บ้างเล็กน้อย ทำให้ตลาดเริ่มคาดหวังการหยุดขึ้นดอกเบี้ยของ FED แต่อย่างไรก็ตาม FED นั้นยังคงมีท่าทีตึงตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับมือกับเงินเฟ้อได้อยู่จริงๆ มองว่า FED จะมีการหยุดการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อรอดูผลกระทบอีกสักพัก ส่วนการปรับลดดอกเบี้ยมองว่ายังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ ซึ่งถ้าหากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ โอกาสในการเกิด Recession ก็จะสูงตามเช่น Invesco ยังคงชอบเป็นเป็น ตราสารหนี้กลุ่มประเทศ DM จากอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.pimco.com/gbl/en/insights/debt-ceiling-debate-examining-risks-around-the-x-date

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

รับชมรายการเต็มได้ที่ 

PIMCO l Mid Year Outlook 2023 EP.15

MID YEAR OUTLOOK

Lief capital Asset Management

สรุป Mid-Year Outlook จาก PIMCO

The Aftershock Economy

PIMCO มองว่า

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงต้องมีการดำเนินนโยบายแบบตึงตัวต่อไปเพื่อให้เงินเฟ้อลงไปตามเป้าหมาย อีกทั้งผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ปี 2022 ยังไม่ได้แทรกซึมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่มองว่าปี 2023 มีโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างมาก อีกทั้งการตึงตัวของเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ถึงแม้จะคลี่คลายแล้วแต่ PIMCO เชื่อว่าจะเป็นปัญหาในระยะยาว การบริโภคจะหดตัว และ ความเสี่ยงการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะเป็นเรื่องที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง Pimco มองว่าเศรษฐกิจช่วงนี้ยังเต็มไปด้วยความเสี่ยง และตลาดทุนจะผันผวน

โอกาสในการลงทุน

  • Investment Grade ทั้ง Short และ High Duration จะเป็นตัวที่ปกป้องความเสี่ยงให้กับ Port และให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจจากระดับดอกเบี้ยที่สูง 

  •  ตลาดหุ้น EM มองว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มซบเซา US Dollar มีโอกาสที่จะอ่อนค่าลง ซึ่งตลาด EM จะได้ประโยชน์จากจุดนี้อีกทั้งยังมองว่าตลาด EM จะเติบโตสวนทางกับกลุ่ม DM ที่จะเริ่มหดตัว

กลุ่มที่ให้ระมัดระวัง คือ

  • ตลาดหุ้น DM มองว่าความเสี่ยงในปีนี้ยังมีอยู่มากแนะนำให้หลบก่อน

 

โดยสรุป :

เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาแสดงแนวโน้มที่ดีถึงแม้ว่ายังคงมีปัจจัยเสี่ยง ด้วยการเงินเฟ้อลดลงเข้าสู่เป้าหมาย 2% อัตราเพิ่มของค่าจ้างประมาณ 5.2% ต่อปี มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจในระยะยาวเนื่องจากมีส่วนสำคัญใน GDP ของประเทศมาจากการบริโภค การมีวินัยทางการเงินที่ดีขึ้นและอัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้มีมุมมองที่ดีต่ออนาคต

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.pimco.com/gbl/en/resources/video-library/media/secular-outlook-the-aftershock-economy

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

Morgan Stanley l Mid Year Outlook 2023 EP.14

MID YEAR OUTLOOK

Lief capital Asset Management

สรุป Mid-Year Outlook จาก Morgan Stanley

Soft Landing, Hard Choices

Morgan Stanley มองว่า

มองว่าสถานการณ์ฝั่ง US มองว่ามีโอกาสสูงมากที่จะเป็น Soft Landing จากอัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่าเป้าหมายของ FED เชื่อว่าปีนี้ FED จะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับนี้ทั้งปี แล้วจึงเริ่มปรับลงในช่วงไตรมาส 1 ปี 2024 ส่วน GDP มองปีนี้โตประมาณ 1.20%

 

ส่วนฝั่ง EU มองว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเงินเฟ้อผ่านจุด Peak ถึงแม้ว่าจะใช้เวลามากกว่าฝั่ง US กว่าเงินเฟ้อจะลงไปถึงเป้าหมาย 2.00% แต่เชื่อว่าปีนี้การบริโภคจะเริ่มฟื้นตัว แต่การส่งออกยังน่าห่วง มองโตแค่ 0.70% ในปี 2023 

 

จีนมองว่าจะทำได้ดีในปีนี้โตถึง 5.70% จากการที่กลับมาเปิดประเทศและมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ยังมี Pent-UP Demand อยู่ 

โอกาสในการลงทุน

  • หุ้น EM และ ญี่ปุ่น จาก Growth ที่สูง อัตราเงินเฟ้อที่สวนทางกับฝั่ง DM 

  • หุ้น US กลุ่ม Defensive ( Consumer Discretionary และ Healthcare) มองว่าจะทำได้ดีช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

  • ตราสารหนี้ระยะยาว จาก Yield ที่อยู่ในระดับที่สูง ช่วยป้องกันความผันผวนให้กับพอร์ต 

กลุ่มที่ให้ระมัดระวัง คือ

  • หุ้น DM จากความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ Earning บริษัทใน DM มองว่าจะลดลงในปีนี้

 

โดยสรุป :

Morgan Staley ยังคงมองว่ากลุ่มประเทศ DM จะมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ จากอัตราเงินเฟ้อที่ถึงแม้จะผ่านจุด Peak แต่ยังสูงกว่าเป้าโดย EU บริโภคจะเริ่มฟื้นได้ดีแต่การส่งออกจะฉุดการเติบโต สวนทางกับจีนและญี่ปุ่น ที่มีอัตราเงินเฟ้อสวนทางกัน เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีจากการเปิดประเทศ การบริโภคจะเริ่มกลับมา โดยชอบเป็น หุ้น EM และญี่ปุ่น, หุ้น US กลุ่ม Defensive และตราสารหนี้ระยะยาว ส่วนที่ไม่ชอบจะเป็น หุ้นตลาด DM

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.morganstanley.com/ideas/investment-outlook-mid-year-2023-global-risk , https://www.morganstanley.com/ideas/economic-outlook-mid-year-2023-global-gdp-slowing

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

Scroll to Top