LIEF SELECTIVE FUND
Lief capital Asset Management

Lief Selective Fund (Local) เป็นกองทุนส่วนบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ที่ต้องการหาการลงทุนในหุ้นหุ้นระยะกลางถึงยาว ยอมรับความผันผวนได้สูง ต้องการโฟกัสการลงทุนไปยังหุ้นที่เลือกแล้วว่ามีคุณภาพ มีโมเดลของธุรกิจที่มีโอกาสเอาชนะคู่แข่งในตลาด และมีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต โดยกองทุนนี้จะลงทุนในหุ้นไทย SET และ mai
โดยใช้เครื่องมือ AI มาช่วยในการคัดเลือกหุ้นเบื้องต้นจากปัจจัยพื้นฐาน โดยพิจารณาจากงบการเงินที่ประกาศออกมารายไตรมาสเป็นหลัก หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะทำการศึกษาบริษัททั้งจากมุมมองในเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ จากนั้นจะทำการเเลือกหุ้นที่มีศักยภาพทั้งหมด 25 ตัว สำหรับ Balance model และ 10 ตัวสำหรับ Growth model
เมื่อเลือกหุ้นแล้วจะใช้วิธีการลงทุนแบบกระจายตัวในสัดส่วนเท่ากัน (Equal weighting) และลงทุนเต็มจำนวน (Fully invest) ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนจะทำการติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทที่กองทุนไปลงทุน และคอยประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องภายใต้กรอบความเสี่ยงที่บริหารจัดการได้ชัดเจน
- What's Private Fund
- Lief Private Fund
กองทุนส่วนบุคคล ที่รู้จักกในชื่อ Private Fund คือรูปแบบการลงทุนที่มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ (Licensed Fund Manager) คอยบริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ โดยลูกค้าสามารถมอบหมายการตัดสนิใจ หรือกำหนดกรอบการลงทุนให้กับกองทุนนำไปบริหารจัดการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้กองทุนส่วนบุคคลของ บลจ.ลีฟแคปปิตอล
เราเลือกให้บริการกองทุนส่วนบุคคล เพื่อให้เราสามารถตอบโจทย์ของแต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง เริ่มจากเป้าหมายการเงินที่ลูกค้าต้องการบรรลุ (Goal Based Investment) พูดคุย ปรึกษากับนักวางแผนการเงินของเรา เพื่อค้นหากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม กับผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงที่รับได้ คำนึงถึงข้อกำหนด และเงื่อนไขอื่นๆ ของลูกค้าอย่างครบถ้วน จากนั้นฝ่ายจัดการลงทุนของเรา จะวิเคราะห์สภาวะการลงทุน จัดสรรสัดส่วนสินทรัพย์และค้นหาโอกาสสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนอย่างต่อเนื่อง พาคุณไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล
Who's suitable for Lief Selective Fund?
กองทุน Lief Selective Fund เหมาะกับนักลงทุนที่ …
1#
ต้องการลงทุนในหุ้นไทยโดยใช้การคัดเลือกเชิงพ ื้นฐาน และมีการกระจายตัว (ความเสี่ยง) ท ี่พอเหมาะ
2#
ต้องการให้เครื่องมือที่จัดการลงทุนให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาเลือกเอง ไม่ต้องกังวลปรับพอร์ต
3#
ต้องการสร้างผลตอบแทนจากหุ้นท ีมีโอกาสชนะดัชนีในระยะยาว แต่สามารถรับความเส ียง ความผันผวนระหว่างทางได้
Investment Strategy
“No man is better than a machine, and No machine is better than a man with a machine.”
กลยุทธ์ Lief Selective Fund ลงทุนหุ้นไทย 100% (Fully Invest) ในลักษณะถือลงทุนระยะยาว (Buy & Hold) โดยมีการพิจารณาปรับพอร์ต รายไตรมาส โดยพิจารณาจากข้อมูลงบการเงินที่ประกาศออกมาในระหว่างช่วงปี ผ่านการคัดกรองด้วย Genetic Algorithm เฟ้นหาผู้ชนะอย่างแท้จริง
หลังจากนั้นทางฝ่ายจัดการกองทุนจะนำผลลัพธ์ที่ได้ไปพิจารณา วิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง เพื่อคัดกรองบริษัทที่มีความเสี่ยงในด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมเช่น การเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่ปกติ สภาพคล่อง ข่าวสาร หรือกลุ่มผู้บริหารที่อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนได้
กลยุทธ์การลงทุนที่ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม มาช่วยกรองหุ้นพื้นฐานที่ดี ผ่านงบการเงิน
ไม่เพียงผลประกอบการที่ดี เพราะมีผู้จัดการกองทุน ตรวจสอบข้อมูลเชิงคุณภาพให้แน่ใจอีกชั้น ก่อนเข้าลงทุน
ลงทุนเพื่อการเติบโต ผสานกับการรักษาสมดุล ด้วยการปรับสัดส่วน ตามศักยภาพของหุ้น รายไตรมาส
ขั้นตอนการคัดเลือกหลักทรัพย์และการดำเนินการลงทุน
ขั้นตอนที่ 1
ลงทุนในหุ้นไทย SET และ mai
ใช้การคัดเลือกหุ้นเบื้องต้นจากปัจจัยพื้นฐาน โดยพิจารณาจากงบการเงินที่ประกาศออกมารายไตรมาสเป็นหลัก หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะทำการศึกษาบริษัททั้งจากมุมมองใน
ขั้นตอนที่ 2
คัดกรองด้วยเครื่องมือ และตัดสินใจด้วยผู้จัดการกองทุน
ROE / ROA / PE / PB / Net Profit Margin / etc.
ขั้นตอนที่ 3
คัดเลือกด้วยปัจจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Screening)
อัตราการจ่าย ดอกเบี้ย และเงินปันผล / ความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงาน / ความผันผันผวนเชิงสถิติ / มูลมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยย้ย้อนหลัง
คัดเลือกด้วยปัจจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Screening)
ลักษณะธุรกิจ นโยบายการดำเนินงาน / ข้อมูลเชิงลึกของบริษัริท / ผู้บริหาร / อุตสาหกรรม / โอกาสเติบโตในอนาคต / ความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรม
ขั้นตอนที่ 4
กระจายการลงทุนในสัดส่วนที่เท่ากัน (Fully invest + Equal weighing)
กระจายเงินลงทุนเต็มสัดส่วนโดยสำรองค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 3% ของเงินลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงการกระจุกตัว ( Concentration Risk )
ขั้นตอนที่ 5
ติดตามสภาวะการลงทุน และบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในกรอบที่กำหนด (Risk Monitoring
ความเสี่ยงสภาวะตลาด / ความเสี่ยงรายหลักทรัพย์ / เกณฑ์การ Cutloss / ความเสี่ยงของเหตุการณ์ เช่น การควบรวมกิจการ / การใช้สิทธิ์ Corporate Action ของบริษัท
Portfolio Model
กองทุนแบ่งตามผลตอบแทน และความเสี่ยงได้เป็น 2 ระดับ

เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง
และต้องการลงทุนในหุ้นไทยเต็มจำนวนตลอดเวลา แต่มีการกระจายอย่างพอเหมาะและมีการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง- Balanced โมเดลกระจายลงทุน 25 หลักทรัพย์ ในสัดส่วนเท่ากัน
- ลงทุนในหลักทรัพย์หุ้นภายในประเทศรายตัวต้วย (SET + mai)
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1.00%
- ลงทุนขั้นต่ำ 3 ล้านบาท ( เพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 5 แสนบาท )
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ 1.50% / ปี
- ส่วนแบ่งผลตอบแทนอัตรา 10.00% คำนวณด้วยวิธี High water mark คำนวณ ณ สิ้นปีปฏิทิน

เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก
สามารถรับความผันผวนจากการกระจุกตัวได้ ต้องการลงทุนหุ้นรายตัวโดยผ่านการคัดเลือกปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เพื่อการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว มีกระปรับพอร์ตรายไตรมาส- Balanced โมเดลกระจายลงทุน 10 หลักทรัพย์ ในสัดส่วนเท่ากัน
- ลงทุนในหลักทรัพย์หุ้นภายในประเทศรายตัวต้วย (SET + mai)
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1.00%
- ลงทุนขั้นต่ำ 3 ล้านบาท ( เพิ่มทุนขั้นต่ำครั้งละ 5 แสนบาท )
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ 1.50% / ปี
- ส่วนแบ่งผลตอบแทนอัตรา 10.00% คำนวณด้วยวิธี High water mark คำนวณ ณ สิ้นปีปฏิทิน
มีโอกาสขาดทุนได้ / ไม่มีกลไกคุ้มครองเงินต้น / ไม่มีการรับประกันผลตอบแทน
Let's talk about life
กรอกข้อมูลหากท่านสนใจหรือมีข้อสงสัยในกลยุทธ์ของเรา โดยเราจะรีบติดต่อกลับไปอย่างรวดเร็วที่สุด
You must be logged in to post a comment.