พาส่องกลยุทธ์การลงทุนตราสารหนี้

INSIGHT

Lief capital Asset Management

พาส่องกลยุทธ์การลงทุนตราสารหนี้

Three market scenarios: how would credit perform?

สรุปประเด็นสำคัญ

 

Schroders จะพานักลงทุนมองข้ามช็อต ไปยัง 12 เดือนข้างหน้าหลังจากนี้ของตลาดตราสารหนี้ โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 3 Scenario ดังนี้
 
The Good – Soft Landing เศรษฐกิจเติบโตช้าลง แต่ไม่มี Recession หรือ Crisis เงินเฟ้อชะลอลงได้ดีโดยไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก และที่สำคัญภาคธุรกิจแข็งแรง The Bad – Hard Landing เศรษฐกิจหดตัวรุนแรง อัตราว่างงานพุ่งสูง แม้เงินเฟ้อจะควบคุมได้อยู่หมัดแต่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจทำให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลง The Ugly – Rates go up เงินเฟ้อร้อนแรงยืดเยื้อ ดอกเบี้ยต้องขึ้นต่อ ตลาดตกใจ กังวล เหมือนกลางปี 2022 ที่ผ่านมา

แต่ละ Scenario ลงทุนอย่างไรดี ?

Soft Landing – ดอกเบี้ยลงจะเป็นช่วงที่โอกาสในการ Default ของ bond ต่ำ แนะนำให้เลือกตราสารหนี้ระยะยาว และเลือก High Yield Bond เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม

Hard Landing –  ดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง เศรษฐกิจค่อนข้างตึงตัว ให้เลือก ตราสารหนี้ระยะยาว แต่เลือกเป็น Investment Grade เพื่อเลี่ยงการ Default ของตราสารหนี้

Rates back up -ดอกเบี้ยยังคงขึ้นสูงต่อเนื่อง เงินเฟ้อยังคงสูงอยู่แนะนำให้เลือก Floating Rate เพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ รวมถึง Investment Grade เพื่อป้องกันความเสี่ยงตลาด

 

จัด Port 60/40 ยังได้ผลไหม

นี่คือครั้งแรกตั้งแต่ 1969 ที่หุ้นกับ Bond ลงพร้อมกัน / Fed ขึ้นดอกเบี้ย เร็วสุดในรอบ 40 ปี / เมื่อตลาดเลิกกังวลเงินเฟ้อ และกลับมาอยู่ในโหมดเติบโต ตราสารหนี้จะกลับมาช่วยทำหน้าที่กระจายความเสี่ยงได้

 

 

โดยสรุป :

Schroders แบ่ง Bond ที่น่าสนใจในการลงทุน เป็น 3 Scenario ดังนี้

1.) Soft Landing – ลงทุน High Yield Bond และ ตราสารหนี้อายุยาว

2.)Hard Landing – เลือก Investment Grade Bond

3.) Rates Back Up – ลงทุนใน Floating Rate Bond 

 

ส่วนการลงทุนแบบ 60/40 นั้นถ้าหากว่าตลาดคลายความกังวล และเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะเติบโตได้ ตราสารหนี้ก็จะกลับมาช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตได้ดีเช่นเดิม

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.schroders.com/en/insights/economics/three-market-scenarios-how-would-credit-perform/

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

สถานการณ์ปัจจุบันจะเกิด Hard Landing หรือจะไม่ Landing เลย ?

INSIGHT

Lief capital Asset Management

สถานการณ์ปัจจุบันจะเกิด Hard Landing หรือจะไม่ Landing เลย ?

Macro Scenarios : Soft, Hard or No Landing This Year?

สรุปประเด็นสำคัญ

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุน แต่อย่าเพิ่งมองโลกในแง่ดีมากเกินไป ยังมีเงินเฟ้อที่ Sticky และปัญหาแบงค์ล้มที่ยังอยู่ และส่งที่ยังต้องคิดต่อคือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ จะรุนแรงไป หรือ เบาไป ยังเป็นความเสี่ยงที่ยังรอในข้างหน้า จากภาพข้างล่างบ่งชี้ตลาดคาดหวังว่า FED จะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม (ซึ่งลดจริงๆ) 

จากความไม่แน่นอน ของผลที่ตามมาของนโยบายทางการเงิน ทาง MSCI ได้แบ่ง SCENARIO ที่น่าจะเกิดดังต่อไปนี้

  • Soft Landing – ดอกเบี้ยสูง แต่เงินเฟ้อค่อยๆลงมาตามคาดเศรษฐกิจโลกและ กลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้วมีการเติบโตเล็กน้อยเท่านั้น

  • Hard Landing – นโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไปทำให้เงินเฟ้อลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ GDP ติดลบ Growth ไม่มี การถดถอยอาจจะรุนแรง

  • Mild stagflation – เงินเฟ้อไม่ลง ทำให้ FED หมดความน่าเชื่อถือ ประกอบกับ ดอกเบี้ยสูงทำให้ Growth น้อย  เงินดอลลาร์แข็งค่า กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเลยแย่ไปด้วย

  • Strong rebound – เงินเฟ้อลดเร็วกว่าที่คาด ไม่ต้องใช้นโยบายเข้มงวด กระตุ้นเศรษฐกิจกลับมาโตได้เร็ว 

จาก Scenario ที่ไล่เลียงมานั้น จะพบว่า 

  • ลงทุนแบบ Portfolios ดีสุด ในกรณี Strong Rebound ทำ Return 8% แต่แย่สุดในช่วง Mild Stagflation แต่ผลตอบแทนมีความเสถียร(ไม่เหวี่ยงไปมา) เมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ 

  • ตราสารหนี้ ดีที่สุดในกรณี Hard Landing แต่ Strong Rebound อาจจะไม่ดีเท่าไหร่

  • กลุ่มหุ้น  Performance ดีสุดช่วง Strong Rebound (7.00% – 14.00%) แต่ Underperform ช่วง Mild Stagflation (ตรงข้ามกับตราสารหนี้

 

โดยสรุป :

โดยสรุป จาก Scenario ที่ MSCI โชว์ให้เห็นนั้น จะเห็นได้ว่าไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุดในทุกๆ ช่วงเวลา แต่ถ้าหากเลือกสินทรัพย์ให้ถูกโดยคำนึงถึง ช่วงเวลาในการลงทุนก็อาจที่จะสร้าง Performance ที่ดีได้เช่นกัน

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.msci.com/www/blog-posts/macro-scenarios-soft-hard-or-no/03812879490

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือนำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

วิกฤตเพดานหนี้ รอบนี้ต้องกังวลไหม

INSIGHT

Lief capital Asset Management

วิกฤตเพดานหนี้ รอบนี้ต้องกังวลไหม

Debt Ceiling Debate: Examining Risks Around the X Date

สรุปประเด็นสำคัญ

ปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐเริ่มกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เรื่องนี้จะหนึ่งในตัวแปรที่จะทำให้ตลาดผันผวนในเพิ่มมากขึ้นแต่ Pimco มีความเชื่อมั่นว่าน่าจะมีการหาทางออกร่วมกันได้ ก่อนที่จะถึง X Date (วันที่ US จะจ่ายหนี้ไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะเร็วกว่ากำหนดการเดิม) เนื่องจากว่าปัญหาเพดานหนี้ จะไม่ได้กระทบแค่ส่วนของตลาดทุนหรือเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง การเมืองอีกด้วย ดังนั้นทุกๆ ฝ่ายจึงพยายามเร่งร่วมมือกันที่แก้ปัญหา

แนวทางแก้ปัญหามีดังนี้
1. ยกเพดานหนี้ให้สูงขึ้น
2.เลื่อนกำหนดการไปหลังเลือกตั้ง
3.เรียกคืนเงินสนับสนุนในช่วง Covid-19 ที่ยังไม่ได้ใช้
4. แต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมหนี้สาธารณะ
 
วันที่ X Date ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอน เนื่องจากต้องรอดูยอดการเก็บภาษี รวมถึงค่าใช้จ่ายของรัฐบาลอีกครั้ง แต่เบื้องต้นคาดการณ์ว่า เงินที่มีให้ใช้จ่าย น่าจะลดลงภายในวันที่ 15 มิถุนายน
 
ผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีวันหมดอายุก่อน X Date ยังคงมีแรงซื้อเข้ามา เป็นสัญญาณว่านักลงทุนต้องการที่จะล็อกความเสี่ยง มากกว่าการเก็งกำไรในช่วงนี้ ส่วนตราสารหนี้ระยะกลางมีการเทขายเล็กน้อย และ Pimco มองว่าตลาดหุ้นน่าจะเกิดความผันผวนได้อีก โดยสถิติแล้ว เดือนก่อนที่จะ X Date นั้น S&P 500 ลดลงถึง -6.5% หรือหากเหตุการณ์แย่จริงๆ F ED อาจจะต้องเข้ามาช่วยแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ Default ด้วย แต่Pimco มองว่าเหตุการณ์ Default น่าจะไม่เกิด
 

 

โดยสรุป : ปัญหาเพดานหนี้นั้น เริ่มกลับมาเป็นที่พูดถึงมากขึ้นในช่วงนี้ ตามสถิติ S&P 500 ปรับตัวลดลงถึง -6.5%ก่อน X Date ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะกลางถูกเทขายมาซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยง แต่ทาง PIMCO กลับมองว่าทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้องน่าจะร่วมมือกันหาทางออกได้ เนื่องจากหากแก้ไม่ได้ จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และคาดว่ากระทรวงการคลังน่าจะเริ่มมองหาเงินสดมาเสริมสภาพคล่องก่อน X Date แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องติดตามดูปัจจัยเพดานหนี้กันต่อไป ว่าจะแก้ได้ก่อน X Date หรือไม่

 

ข้อมูลอ้างอิง : https://www.pimco.com/gbl/en/insights/debt-ceiling-debate-examining-risks-around-the-x-date

*บทความสรุปเนื้อหาเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน หรือคำเสนอสินค้าและบริการทางการเงินการลงทุน นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

Scroll to Top