🚙 รถยนต์ไฟฟ้ามาแทนแน่ !! คำที่หลายๆ คนชอบพูด บทสรุปเป็นยังไง เราสรุปจากข้อมูลมาให้แล้ว




พูดถึง
👉 รถไฟฟ้าก็ต้องพูดถึง EV industryในหมู่เทรนด์อนาคตที่มีคนพูดถึงกันหลากหลาย สิ่งที่เรามองว่าเห็นความชัดเจนมากสุดและดูจะมาแน่นอนก็จะเป็นธุรกิจ EV ครับ
ทำไมถึงเชื่อแบบนั้น ?
👉 เป็นเพราะตอนนี้หลักฐานหลายอย่างบ่งชี้ไปทิศทางนั้นครับ
ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งอยู่บนถนนมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานของ IEA (International Energy Agency) ที่นับรวมรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ (BEV, Battery EV) กับรถยนต์ไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน (PHEV, Plug-in Hybrid EV) โดยในปี 2020 มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคันแล้ว

ในแง่

ประเทศพัฒนา
แล้วส่วนใหญ่ รถ EV จะเริ่มชิงส่วนแบ่งการตลาดเข้าไปเรื่อยๆ ยกเว้นในประเทศญี่ปุ่นซึ่งดูจะช้ากว่าเพื่อน สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะบริษัทค่ายรถยนต์ที่อยู่ในญี่ปุ่นมีอยู่หลายเจ้าที่เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถน้ำมัน และยังพยายามรักษาธุรกิจรถใช้นำ้มันแบบดั้งเดิมอยู่


ทางฝั่งผู้ผลิตเอง
หลายเจ้าก็แสดงจุดยืนชัดเจนที่จะเข้ามาแข่งในฝั่ง EV หลายเจ้าก็ถือว่าช้าแหละเพราะคนอื่นเค้านำไปก่อนแล้ว เหตุผลหลักที่สุดท้ายทุกเจ้าต้องขยับก็น่าจะเป็นเรื่องที่เห็นคาตาอยู่แล้วว่า EV กินส่วนแบ่งการตลาดเข้ามาเรื่อยๆถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างก็น่าจะลำบาก
ค่ายรถยนต์ที่อยู่ในยุโรปกับจีนซึ่งเป็นตลาดที่ยอดขายสูงกับเติบโตอย่างรวดเร็วมีเป้าหมายที่ Aggressive มาก อย่าง Volvo นี่ถึงกับบอกว่าจะผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2030 ส่วนเจ้าอื่นๆที่แต่ก่อนไม่ทำเลยหรือไม่เคยมีแผนเลยก็ถูกกดดันให้หันมาทำมากขึ้นเรื่อยๆ
❓❓ทีนี้คำถามคือ
ถ้าเราต้องการจะลงทุนในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จาก EV เราจะลงทุนในอะไรดี มันก็มีไอเดียหลักๆประมาณนี้
📍ลงทุนในบริษัทรถยนต์ที่ทำ EV
📍ลงทุนในบริษัทที่ทำส่วนประกอบสำคัญของ EV เช่นแบตเตอรี่
📍ลงทุนในบริษัทที่ทำพวกสถานีชาร์จ
📍ลงทุนในบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า
👉โดยรวมแล้ว เราเชื่อในมองหาการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตในขณะที่ความเสี่ยงในการสูญเสียควรจะต่ำ สำหรับโอกาสในธุรกิจ EV เรามีมุมมองดังนี้
📍 ลงทุนในบริษัทรถยนต์ที่ทำ EV
กลุ่มนี้เรามองว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าเราจะลงทุนเราต้องเลือกถูกบริษัท หรือถ้าเราจะลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงอย่าง ETF ก็ไม่ค่อยเวิร์คเพราะในธุรกิจนี้อนาคตจะมีผู้แพ้และผู้ชนะ ต้องเข้าใจว่าการเปลี่ยนผ่านไปเป็น EV คือการที่ EV กินส่วนแบ่งการตลาดของรถที่ใช้น้ำมัน จำนวนรถยนต์ใหม่ที่ขายต่อปีไม่ได้เพิ่มขึ้นสองเท่าเพราะมี EV คนจะเลือกระหว่างรถน้ำมันหรือ EV ไม่ใช่ซื้อทั้งสองอย่าง
ดังนั้นถ้าเราซื้อ ETF ที่ลงทุนในบริษัทรถยนต์หลากหลายค่าย บางบริษัทในนั้นที่ทำได้ดีก็จะเป็นพวกที่ไม่มีรถน้ำมันอยู่แต่เดิมแล้วเข้ามาแข่งใน EV แล้วชนะ บางบริษัทในนั้นก็จะเฉยๆ ต่อให้ชนะในตลาด EV เพราะแต่เดิมมีรถน้ำมันอยู่ มันก็เหมือนลงทุนเปลี่ยนสินค้าโดยที่ไม่ได้ขายได้เพิ่ม และบางบริษัทในนั้นก็จะเป็นผู้แพ้เพราะแข่งใน EV ไม่ชนะ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีรถน้ำมันอยู่เดิมพวกนี้ก็จะอนาถบางส่วนก็จะตายไป
ดังนั้นโดยรวมการลงทุนในหุ้นหรือ ETF กลุ่มนี้ก็จะมีความเสี่ยง ถ้าจะทำจริงๆควรเลือกซื้อหุ้นรายตัวไปเลยจะดีกว่า
📍 ลงทุนในบริษัทที่ทำส่วนประกอบสำคัญของ EV เช่นแบตเตอรี่
กลุ่มนี้ดีขึ้นมาหน่อย เพราะบริษัทที่ผลิตแบตเตอรี่ให้รถ EV มีไม่เยอะ เจ้าหลักๆ ก็จะเป็นในจีน, เกาหลี กับญี่ปุ่น ตัวเลือกก็จะน้อยนิดนึง ธุรกิจกลุ่มนี้อาจจะรวมบริษัทพวกบริษัทที่ทำเหมือง Lithium แต่พวกที่ทำเหมืองโดยปกติผลประกอบการก็จะไม่ค่อยสม่ำเสมอ ไม่ค่อยเหมาะจะลงทุนระยะยาวอีก ถ้าพูดถึงความเสี่ยงหลักๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเป็นหลัก
📍 ลงทุนในบริษัทที่ทำพวกสถานีชาร์จ
กลุ่มนี้ไม่ค่อยมีหุ้น คือเราพยายามหาดูว่ามีบริษัทที่ทำธุรกิจกลุ่มนี้หรือเปล่าและก็พบว่ามีคนทำนะ แต่บางบริษัทก็ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น หรือบางบริษัทก็เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจอื่นแล้วมาทำอันนี้เพิ่ม ไม่ค่อยมีที่ทำธุรกิจนี้ตรงๆเท่าไหร่
📍 ลงทุนในบริษัท
ที่ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า กลุ่มนี้โดยส่วนตัวเราชอบที่สุด เพราะโดยตัวธุรกิจเป็น Recurring business ที่มีรายได้ต่อเนื่องสม่ำเสมออยู่แล้วถึงแม้จะไม่มีเรื่อง EV คู่แข่งใหม่ๆไม่ได้สามารถเข้ามาได้โดยง่าย และที่สำคัญคือถ้ามีจำนวนรถ EV เพิ่มขึ้นจริง บริษัทพวกนี้ไม่ต้องสนใจว่าใครจะเป็นผู้ชนะเพราะยังไงก็จะมีการใช้กระแสไฟฟ้าเยอะขึ้นอยู่ดี จึงเป็นทางเลือกที่โดยรวมอาจจะไม่หวือหวา แต่เรามองว่าเป็นผู้ชนะที่ค่อนข้างแน่นอนจากเทรนด์ธุรกิจนี้และมีความปลอดภัยสูง
บทสรุป
เราเชื่อว่าเทรนด์การใช้ EV มาในอนาคตแน่นอน ที่เหลือคือเรารู้แล้วจะได้ประโยชน์อะไรจากมันหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง โดยบทความนี้มิใช่สิ่งชี้นำซื้อขายการลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่การให้ความรู้และข้อมูลที่ช่วยให้เพิ่มมุมมองในการลงทุนเท่านั้น **
บทสรุป
เราเชื่อว่าเทรนด์การใช้ EV มาในอนาคตแน่นอน ที่เหลือคือเรารู้แล้วจะได้ประโยชน์อะไรจากมันหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง โดยบทความนี้มิใช่สิ่งชี้นำซื้อขายการลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่การให้ความรู้และข้อมูลที่ช่วยให้เพิ่มมุมมองในการลงทุนเท่านั้น **
Resource : https://www.ev-volumes.com/ — http://www.iea.org
You must be logged in to post a comment.