ทำไมหุ้นถึงยังน่าลงทุนในขณะที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น



หุ้น

ผลตอบแทนพันธบัตร

คำถามคือ
หากนักลงทุนคาดว่า เงินเฟ้อจะยังคงร้อนแรงต่อไปแบบนี้ อีกสักระยะ จะมีทางเลือกการลงทุนใดบ้างที่พอจะเป็นทางเลือกในช่วงภาวะปัจจุบันนี้ ?
หากพิจารณาจากข้อมูลผลตอบแทนกลุ่มสินทรัพย์ กับ อัตราเงินเฟ้อจะพบว่า (แกนนอน ภาพที่ 1 ในคอมเม้น) เราจะพบว่า แต่ละกลุ่มมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น พันธบัตร ตราสารหนี้ อาจได้รับผลกระทบในด้านลบ เมื่อเงินเฟ้อสูง แต่สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน จะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้
ในอีกด้านหนึ่ง
หากมองว่านักลงทุนมีการจัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงอยู่แล้ว (เช่น หุ้น 60% ตราสารหนี้ 40%) การตัดสินใจลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์อาจแหวกแนวไปหน่อย ไม่มีความถนัดมากนัก หรือยังอยากลงทุนหลักทรัพย์ที่มีการเติบโตได้มากหน่อย การเลือกกระจายความเสี่ยงไปยังกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากเติบโตได้ดีในยามเงินเฟ้อสูง ผลตอบแทนไม่ได้น้อยไปกว่าหุ้นเท่าไหร่นัก แถมยังช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้ด้วย
แล้วทำไมกลุ่ม Infrastructure ถึงยังจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ ในยามเงินเฟ้อสูง และน่าจะคาดหวังได้ประมาณเท่าไหร่ ?
บทสรุป
เราเชื่อว่าหุ้นจะยังสามารถเติบโตได้เนื่องจากธนาคารยอมรับที่จะอยู่กับเงินเฟ้อไปอีกระยะเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยเชื่อว่าผลตอบแทนระยะยาวอาจปรับตัวสูงขึ้นอีกจากการที่นักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อชดเชยเงินเฟ้อ ( ชอบหุ้นใน US , Japan ) และชอบ EU แต่น้อยกว่า 2 ประเทศก่อนหน้าเล็กน้อยจากผลกระทบด้านต้นทุนที่เกิดจากสงครามในยูเครนที่อาจส่งผลต่อกำไรของบริษัท และจีนที่มีโอกาสเติบโตแต่อาจชะลอจากมาตรการ Net-Zero Covid ** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง โดยบทความนี้มิใช่สิ่งชี้นำซื้อขายการลงทุนแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงแค่การให้ความรู้และข้อมูลที่ช่วยให้เพิ่มมุมมองในการลงทุนเท่านั้น **
You must be logged in to post a comment.